Breaking News
Loading...
Wednesday, June 27, 2012

ลิ้งค์ดูหนังจากยูทูบ www.youtube.com
http://www.youtube.com/watch?v=mai


เรื่องย่อ : ไม-โอโตเมะ ศึกอัญมณีสาวน้อยแห่งดวงดาว (ญี่ปุ่น: 舞-乙HiME, Mai-Otome ?)
ไม-โอโตเมะ ศึกอัญมณีสาวน้อยแห่งดวงดาว[1] (ญี่ปุ่น: 舞-乙HiME, Mai-Otome ?) (อังกฤษ: My-Otome) เป็นอะนิเมะที่สร้างโดยบริษัท ซันไรส์ กำกับโดย มาซะคะสึ โอบาระ เป็นการนำเรื่อง ไม-HiME มาเล่าใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยนำตัวละครจากภาค ไม-HIME มาเปลี่ยนชื่อและบทบาทใหม่ แต่มีตัวละครหลายตัวยังคงใช้ชื่อเดิม รวมทั้งความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวได้เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
ไม-โอโตเมะ ออกฉายครั้งแรกทางทีวีโตเกียว ตั้งแต่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2548 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2549

ยูเมะมิยะ อาริกะ สาวน้อยธรรมดาผู้เดินทางจากชายแดนเข้าสู่ วินด์บลูม อาณาจักร แห่งสุดยอดเทคโนโลยี เพื่อสานฝันเป็นโอโตเมะเหมือนกับแม่ของเธอที่หายสาบสูญไปเมื่อเมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้ได้รู้จักกับ นีน่า หว่อง โอโตเมะคอรอลอันดับหนึ่งของโรงเรียนโอโตเมะ,ราชินีเด็กแสนซนแห่งอณาจักรวินด์บลูม มาชิโระ บลอง เดอะ วินด์บลูม และ เซอเกอร์ หว่อง นายพลของอณาจักรและพ่อบุญธรรมของนีน่า จริงๆแล้วเธอไม่สามารถเข้าเรียนได้ แต่เพราะ นัตสึกิ ครูเกอร์ ผู้อำนวยการของโรงเรียนได้เห็นสร้อยคอไพลินที่อาริกะใส่อยู่ซึ่งเคยเป็นของอดีตโอโตเมะแห่งอณาจักรวินด์บลูม จึงสงสัยและรับอาริกะเข้ามาเรียน จนนักเรียนในโรงเรียนบางคนต่างไม่ชอบขี้หน้าอาริกะของคิดว่าเป็นเด็กเส้นและเข้าเรียนกลางเทอม แต่อาริกะไม่ยอมแพ้จนทำให้ทุกคนยอมรับเธอในที่สุด จนวันนึงเธอได้เข้าไปทำงานพิเศษในปราสาทเล่นได้พบทางเข้าห้องใต้ดิน ของปราสาท พร้อมกับมาชิโระ ซึ่งมาชิโระก็ไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่อลงไปชั้นใต้ดินทั้งคู่ก็ได้พบกับออแกนยักษ์ซึ่งมาชิโระก็ลองกดจึงเกิดเสียงสนั่นลั่นทั่วเมือง แรงเสียงออแกนทำให้เจม (gem) ของทั้งคู่ได้แตกสลาย ทันใดนั้นสเลฟก็ได้ปรากฏขึ้นและจะทำร้ายพวกอาริกะ อาริกะจึงใช้พลังจากสร้อยคอเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ กลายเป็นไมสตาร์โอโตเมะ และจัดการสเลฟได้ในที่สุด แต่ประเทศทุกที่ได้รู้แล้วว่า ฮาโมเนียม สุดยอดเทคโนโลยีที่มีพลังทำลายล้างโลกและแม้แต่กาลเวลาที่หายสาบสูญมาเป็น 300 กว่าปี ได้ซ่อนอยู่ที่วินด์บลูมนั่นเอง แต่ละประเทศล้วนอยากได้ฮาโมเนียมไปครองกัน และสิ่งที่ตามมาก็คือสงครามโลกเพื่อแย่งชิงฮาโมเนียม ทำให้โอโตเมะแต่ละประเทศได้ต่อสู้กัน

ตัวอย่างหนัง, Trailer


0 comments:

Post a Comment